โรคที่ส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่พบบ่อย

1.โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือ เส้นเลือดในสมองตีบ / แตก

โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยง เนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก  ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองในส่วนนั้นหยุดชะงักลง ส่งผลให้เนื้อสมองถูกทำลายเนื่องจากการขาดออกซิเจนและสารอาหาร โดยปกติสมองของคนเราแต่ละส่วนจะควบคุมการทำงานของร่างกายแตกต่างกันออกไป เมื่อส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทำลายจะส่งผลต่อการทำหน้าที่ในส่วนนั้นๆ จึงไม่สามารถควบคุมอวัยวะ  และระบบต่างๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้ตามปกติได้ โดยความผิดปกติของหลอดเลือดสมองที่ทำให้สมองขาดเลือด ที่พบบ่อย สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (ischemic stroke)

เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง พบได้ประมาณ 80% มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือด จากคราบไขมัน  และหินปูนที่เกาะผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และรูของหลอดเลือดค่อยๆ ตีบแคบลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง หรืออาจเกิดจากการลิ่มเลือดที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง เป็นต้น

หลอดเลือดสมองแตก (hemorrhagic stroke)

พบได้ประมาณ 20% ของโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบางร่วมกับภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้บริเวณที่เปราะบางนั้นโป่งพอง และแตกออก ส่งผลให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บจากการมีเลือดคั่งในเนื้อสมอง ทำให้เนื้อสมองตาย หรืออาจเกิดจากหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่นจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดปริแตกได้ง่าย ซึ่งอันตรายมากเนื่องจากทำให้ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลงอย่างฉับพลันและทำให้เกิดเลือดออกในสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วได้

อาการของผู้ป่วย จะขึ้นอยู่กับความเสียหายของสมอง โดยอาการของโรคหลอดเลือดสมองทั้ง 2 ชนิดจะค่อนข้างคล้ายกัน แต่ชนิดเลือดออกในสมองจะมีอาการปวดศีรษะและอาเจียนร่วมด้วย ทั้งนี้ผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีหลายอาการร่วมกัน เช่น ร่างกายอ่อนแรง หรือมี อาการอัมพฤกษ์ ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะที่แขนและขาด้านใดด้านหนึ่ง อาจมีการพูดและการมองเห็นไม่ปกติ เช่น กลืนลำบาก ทรงตัวไม่ค่อยได้ หรือในในกรณีที่เป็นรุนแรง จะมีปัญหาในการควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ ทำให้มีปัญหาทางการขับถ่ายได้

2.โรคอัมพาตใบหน้า / เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ (Bell’s palsy)

โรคอัมพาตใบหน้า เป็นอาการที่เกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 (facial nerve) อักเสบหรือได้รับบาดเจ็บ ทำให้สูญเสียการทำงาน ซึ่งเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 นี้

ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า จึงส่งผลให้มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีก คือ ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก หนังตาและมุมปากตก น้ำลายไหลจากมุมปาก ปิดตาไม่สนิท เป็นต้น โรคนี้พบได้ทุกเพศทุกวัย มักเกิดในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนน้อยจนทำให้มีการติดเชื้อไวรัส เช่นไวรัสเริม งูสวัด ไวรัสไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้ยังพบบ่อยในสตรีตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเบาหวาน มะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือต่อมน้ำเหลือง ผู้ติดเชื้อไวรัส HIV เป็นต้น

3.เส้นประสาทอักเสบจากการผ่าตัด/การทำศัลยกรรม

การผ่าตัด หรือ การศัลยกรรม อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง และเมื่อเส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ ร่างกายจะสร้างพังผืดมาซ่อมแซม

อาจทำให้เกิดการส่งสัญญาณของเส้นประสาทผิดเพี้ยนไปจากเดิม จึงทำให้ผู้ป่วยหลายท่านมักมีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น แสบร้อน เสียว ยิบๆ ซ่าๆ

หรืออาการแปลกๆ ที่เกิดจากการระคายเคืองของเส้นประสาท ซึ่งอาการอาจเป็นเพียงเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้ ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลให้เกิดการลุกลามมากขึ้นในอนาคตได้

ทำไมการรักษาของเรา จึงช่วยคุณได้

การรักษาของเรา ไม่ใช่การรักษาที่มุ่งไปแค่ การจัดกระดูก หรือ การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่เราเน้นการรักษาที่ สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในชั้นกล้ามเนื้อ หมอนรองกระดูก ข้อต่อ พังผืด เส้นลม เส้นเอ็น รวมถึง เส้นประสาท ในบริเวณที่มีปัญหา ซึ่งจะเป็นการแก้ไขอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุดที่สุด และทำให้เห็นผลได้อย่างชัดเจนและถาวร

การรักษาของเราประกอบไปด้วยขั้นตอนสำคัญ 3 ขั้นตอน ดังนี้

การนวดแผนไทยประยุกต์

จะนวดโดยการใช้ข้อศอกนวดลงบริเวณที่มีอาการเกร็งตัว เพื่อทำให้กล้ามเนื้อชั้นบนคลายตัว จากอาการตึงเครียด และอาการหดเกร็ง

ด้วยการนวดที่เฉพาะตัวของทางคลินิก เราสามารถนำเทคนิคนี้มาใช้เพื่อช่วยรักษาอาการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อในผู้ป่วยอัมพฤกษ์ เป็นต้น

การนวดแผนไทยประยุกต์

จะนวดโดยการใช้ข้อศอกนวดลงบริเวณที่มีอาการเกร็งตัว เพื่อทำให้กล้ามเนื้อชั้นบนคลายตัว จากอาการตึงเครียด และอาการหดเกร็ง

ด้วยการนวดที่เฉพาะตัวของทางคลินิก เราสามารถนำเทคนิคนี้มาใช้เพื่อช่วยรักษาอาการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อในผู้ป่วยอัมพฤกษ์ เป็นต้น

การนวดแกะเส้น

จะเป็นการใช้นิ้วมือขยับไปตามมัดกล้ามเนื้อชั้นลึก (Deep tissue) ที่มีการเกร็งตัวใน และ แกะมัดกล้ามเนื้อที่บีบรัดกันมากๆ ให้คลายตัวออกจากกัน เพื่อให้กล้ามเนื้อกลับมามีความยืดหยุ่นดังเดิม

ขั้นตอนการนวดแกะเส้นนี้สามารถใช้เพื่อแก้อาการตึงกล้ามเนื้อชั้นในของผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์

การนวดสลายพังผืดและจุดปวดเกร็ง

การนวดในขั้นตอนนี้ ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด และเป็นขั้นตอนที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างถาวร ซึ่งการนวดในขั้นตอนนี้ เราจะใช้ไม้เล็กๆ กดคลึงเพื่อ

✅ สลายจุดปวดเกร็ง (Trigger points) ที่ฝังตัวอยู่ในมัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ จึงสามารถรักษาอาการเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ เส้นประสาทอักเสบจากการผ่าตัดหรือศัลยกรรม ได้ เป็นต้น และหากจุดปวดเกร็งนี้ไปกดทับเส้นประสาท จะทำให้เส้นประสาทชุดนั้นๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิด อาการ ปวด ชา แสบร้อน ไฟช็อต ยิบๆ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ตามมา

✅ สลายพังผืด ที่เกาะอยู่ตามข้อต่อ หรือหมอนรองกระดูก พังผืดที่เกาะอยู่นี้ คือสาเหตุที่ทำให้ข้อต่อ และ หมอนรองกระดูกเกิดการแข็งตัว ยึดล็อค ไม่ยืดหยุ่น ผิดรูป ซึ่งทำให้เกิดอาการ ข้อติด เคลื่อนไหวลำบาก ในผู้ป่วยได้

ในขณะทำการรักษานั้น เราจะทำทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ ควบคู่สลับกันไปในทุกๆ จุดที่มีปัญหาเพื่อแก้ปัญหาได้ครบทุกสาเหตุ และเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้นจนสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากการรักษาโดยทั่วๆ ไป

  • เมื่อพังผืดและจุดปวดเกร็งสลายตัวออก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ หมอนรองกระดูก จะกลับมามีความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อจะคลายตัวอย่างแท้จริง เส้นประสาทจะกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้ง เลือดลมจะหมุนเวียนได้คล่อง จึงเป็นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้อย่างแท้จริง และอาการปวด ชา แสบร้อน หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ก็จะหมดไป และ ไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีกในอนาคต
  • ในภาวะของผู้ที่เป็น อัมพฤกษ์ หรือมี อาการอ่อนแรงนั้น การนวดโดยศาสตร์เฉพาะของทางคลินิกสามารถช่วยฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและเส้นประสาทของผู้ป่วยได้ เนื่องจากการนวดเป็นการกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาท เมื่อเส้นประสาทกลับมาทำงานได้ดีขึ้น ร่างกายจะค่อยๆฟื้นฟูตัวได้เองตามกลไกการซ่อมแซมของร่างกาย อาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบจึงค่อยๆ ดีขึ้น รวมทั้งการยึดเกร็งระหว่างข้อกระดูก ก็จะหายไปด้วย ทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น

ขั้นตอนการนวดสลายพังผืดนี้ เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้อย่างถาวร

การนวดสลายพังผืดและจุดปวดเกร็ง

การนวดในขั้นตอนนี้ ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด และเป็นขั้นตอนที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างถาวร ซึ่งการนวดในขั้นตอนนี้ เราจะใช้ไม้เล็กๆ กดคลึงเพื่อ

✅ สลายจุดปวดเกร็ง (Trigger points) ที่ฝังตัวอยู่ในมัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ จึงสามารถรักษาอาการเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ เส้นประสาทอักเสบจากการผ่าตัดหรือศัลยกรรม ได้ เป็นต้น และหากจุดปวดเกร็งนี้ไปกดทับเส้นประสาท จะทำให้เส้นประสาทชุดนั้นๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิด อาการ ปวด ชา แสบร้อน ไฟช็อต ยิบๆ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ตามมา

✅ สลายพังผืด ที่เกาะอยู่ตามข้อต่อ หรือหมอนรองกระดูก พังผืดที่เกาะอยู่นี้ คือสาเหตุที่ทำให้ข้อต่อ และ หมอนรองกระดูกเกิดการแข็งตัว ยึดล็อค ไม่ยืดหยุ่น ผิดรูป ซึ่งทำให้เกิดอาการ ข้อติด เคลื่อนไหวลำบาก ในผู้ป่วยได้

ในขณะทำการรักษานั้น เราจะทำทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ ควบคู่สลับกันไปในทุกๆ จุดที่มีปัญหาเพื่อแก้ปัญหาได้ครบทุกสาเหตุ และเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้นจนสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากการรักษาโดยทั่วๆ ไป

  • เมื่อพังผืดและจุดปวดเกร็งสลายตัวออก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ หมอนรองกระดูก จะกลับมามีความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อจะคลายตัวอย่างแท้จริง เส้นประสาทจะกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้ง เลือดลมจะหมุนเวียนได้คล่อง จึงเป็นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้อย่างแท้จริง และอาการปวด ชา แสบร้อน หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ก็จะหมดไป และ ไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีกในอนาคต
  • ในภาวะของผู้ที่เป็น อัมพฤกษ์ หรือมี อาการอ่อนแรงนั้น การนวดโดยศาสตร์เฉพาะของทางคลินิกสามารถช่วยฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและเส้นประสาทของผู้ป่วยได้ เนื่องจากการนวดเป็นการกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาท เมื่อเส้นประสาทกลับมาทำงานได้ดีขึ้น ร่างกายจะค่อยๆฟื้นฟูตัวได้เองตามกลไกการซ่อมแซมของร่างกาย อาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบจึงค่อยๆ ดีขึ้น รวมทั้งการยึดเกร็งระหว่างข้อกระดูก ก็จะหายไปด้วย ทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น

ขั้นตอนการนวดสลายพังผืดนี้ เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้อย่างถาวร

คำบอกเล่าส่วนหนึ่ง

ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เส้นประสาท

พี่เราเป็นเส้นเลือดในสมองตีบมาได้ 6 เดือนแล้วค่ะ ทำให้ซีกขวาอ่อนแรง ครอบครัวเราพยายามหาวิธีทางรักษาให้ทุกทาง ทั้งทานยา อาหารเสริม กายภาพ ฝังเข็ม ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือก แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนพี่เราเริ่มท้อและไม่อยากรักษาแล้วจนมีเพื่อนแนะนำคลินิกนี้ เพราะเพื่อนเคยพาพ่อไปรักษา เราก็ลองเข้ามาดูศึกษาคลิปรีวิวต่างๆ
ก็เลยตัดสินใจพาพี่มารักษา

หลังนวดไปครั้งแรก พี่เราบอกว่า เริ่มรู้สึกว่าร่างกายตอบสนองได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เห็นอะไรชัดเจน จนมาครั้งที่ 3-4 เขาก็ค่อยๆ ดีขึ้น แขนขาเริ่มมีแรงมากขึ้น จนกระทั่งครั้งที่ 5 พี่เราสามารถเดินได้โดยใช้ไม้เท้า ไม่ต้องนั่งรถเข็ญแล้ว ก็มาสม่ำเสมอทุกเดือน

จนตอนนี้อาการแทบจะไม่เหมือนผู้ป่วยที่เป็นเส้นเลือดสมองตีบเลยค่ะ คุณหมอแจ้งว่า โชคดีที่รีบมารักษา และอายุยังไม่มาก ร่างกายเลยฟื้นตัวได้เร็ว ทำให้เห็นผลชัดเจน ขอบคุณคุณหมอมากๆ ค่ะ

มีปัญหาเส้นประสาทกระตุกแบบประหลาดๆ จากการใช้เครื่องยกกระชับใบหน้าพลังงานสูงค่ะ อาการคือ ถ้าลูบหน้าผาก จะรู้สึกเหมือนมีคนกระชากผมตรงกลางศรีษะ มีอาการนี้ทันทีหลังจากไปทำหน้ากลับมารู้สึกวิตกจริตและเครียดมาก ปรึกษาแพทย์ แพทย์ไม่ทราบสาเหตุ แต่ให้ยากิน ซึ่งก็ดีขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น นั่งร้องไห้เกือบทุกวัน เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร

สุดท้ายลองเสิร์จในเน็ตแล้วได้เจอคลินิกนี้ ก็เลยขอเข้ามาให้หมอตรวจ หมอกรเจอจุดที่เป็นและรักษาให้ ตอนรักษาเจ็บมาก ร้องเสียงดังมาก
แต่หมอก็พักให้เป็นจังหวะๆ

หลังนวดหมอให้ทดสอบโดยการลูบหน้าผากจุดที่มีปัญหา ปรากฏว่า อาการกระชากผมหายไป ไม่มีแล้ว ครั้งเดียวจบเลย มันเจ็บแต่คุ้มค่ามาก ขอบคุณคุณหมอมากๆ ที่ช่วยรักษาอาการนี้ให้หนู ถ้าไม่เจอคุณหมอ หนูก็ไม่รู้จริงๆ ว่าหนูจะเป็นยังไงค่ะ

ผมเป็นอัมพาตใบหน้า ตอนแรกที่เป็นตกใจมากครับ กลัวอาการจะเป็นหนัก ดีที่ติดตามเพจของคลินิกอยู่ เมื่อสอบถาม อาการของผมรักษาได้ เลยรีบเข้าไปรักษาครับ นวดครั้งแรกยิ้มได้ปกติเลย จากที่ยิ้มไม่ขึ้น อาการหายทันทีเลยครับ โล่งใจ คุณหมอเก่งจริงๆครับ

ขอบคุณหมอกรมากครับ พาคุณพ่อมารักษาอัมพฤกษ์ มานวดรักษาแล้วหายจริง คุณพ่อกลับไปเป็นปกติเลย คุณหมอบอกว่า อาการดีขึ้นเร็วเพราะเพิ่งเป็นได้ไม่นาน (คุณพ่อเป็นมา 3 เดือนกว่าๆ) เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการเหมือนกัน รีบมารักษาเถอะครับ เส้นประสาทของเรายังฟื้นฟูได้ดีอยู่ นวดแล้วจึงตอบสนองดี ทำให้เห็นผลเร็วครับ

แฟนเป็นเส้นเลือดฝอยในสมองแตกค่ะ แขนซีกซ้ายขยับไม่ได้เลย พูดก็ลำบาก กลืนอาหารก็ลำบาก หาทางรักษาให้ทุกทาง อยากให้เขาหายมากเลยค่ะ และโชคดีมากที่มาเจอหมอกร อาการแฟนดีขึ้น 80% เลยค่ะ แขนซีกซ้ายขยับได้ปกติเลย แต่อาจจะไม่ค่อยมีแรงเท่าเดิม พูดได้ชัดปกติ กลืนอาหารได้

ดีใจมากค่ะที่เห็นเขาดีขึ้นได้ขนาดนี้ แต่กว่าจะดีขึ้นได้ขนาดนี้ ก็พาเขามารักษาต่อเนื่องตลอดนะคะ จนครั้งนี้ครั้งที่ 10 แล้วค่ะ แนะนำสำหรับใครที่ยังลังเลอยู่ รีบรักษาเถอะค่ะ เพราะหมอบอกว่ายิ่งปล่อยนานยิ่งต้องนวดหลายครั้งนะคะ

ดิฉันมีอาการเส้นประสาทที่ใบหน้าอักเสบ จากการร้อยไหม อาการคือจะ จะรู้สึก แปล๊บๆ แสบๆ  ที่ใบหน้าข้างซ้าย เวลาโดนลมพัด หรือเวลาล้างหน้าแล้วมือไปลูบโดน รักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาล โดยอาศัยการกินยา กินอยู่เป็นปี พอหยุดยาก็กลับมาแสบใหม่ จนได้มารักษากับทางคลินิก

หลังจากรักษาไปครั้งแรก อาการหายไปเกือบเดือน รักษาครั้งที่ 2 อาการหายไป 3 เดือน รักษาครั้งที่ 3 มาจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีอาการอีกเลย ดิฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาเจอคุณหมอ รู้สึกดีใจและขอบคุณคุณหมอมากๆ ที่ช่วยรักษาอาการประหลาดๆ ที่ไม่มีใครรักษาได้ ให้หายไปจากชีวิตดิฉัน ขอบคุณคุณหมอมากๆ ค่ะ

คุณพ่อเป็นเส้นเลือดในสมองตีบค่ะ ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกข้างขวา เพิ่งเป็นได้ 2 เดือน มีคนแนะนำว่าที่คลินิกนี้นวดรักษาหาย ตอนแรกไม่เชื่อเลยค่ะ ยังลังเลว่าจะพาคุณพ่อมาดีไหม แต่ก็สงสารคุณพ่อ ใช้ชีวิตลำบาก ก็เลยพาท่านลองมารักษาดูค่ะ ไม่น่าเชื่อ….คุณพ่อเริ่มกลับมาเดินได้ แขน-ขา มีแรงเหมือนคนปกติ หลังจากนวดไป 5 ครั้ง ขอบคุณคุณหมอมากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้คุณพ่อกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติอีกครั้ง

คุณพ่อเป็นเส้นเลือดในสมองตีบค่ะ มารักษากับหมอกรแล้วดีขึ้นเยอะมาก จากที่เดินไม่ได้ ตอนนี้สามารถเดินได้แทบจะปกติ 100% เลยค่ะ ช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง ทางครอบครัวเราก็อยากขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ คุณหมอเก่งและมีประสบการณ์จริงๆค่ะ แนะนำเลยสำหรับใครมีอาการเหมือนๆกัน ต้องลองมาพิสูจน์ค่ะ รีบมา รีบหายนะคะ อย่าปล่อยไว้นาน แนะนำเลยค่ะ

*** ผลการรักษาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ***

อาการ เส้นเลือดในสมองตีบ แขน ขา อ่อนแรง

อาการ เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ยิ้มไม่ได้

*** ผลการรักษาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ***

หากคุณอยากลาขาดจากอาการที่เป็นอยู่
ไม่อยากให้มารบกวนชีวิต รบกวนการพักผ่อน หรือ
รบกวนการทำงานของคุณอีกต่อไป

หากคุณอยากจบอาการนี้อย่างถาวร
เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่คนรอบข้าง  เมื่อยามแก่ตัวลง

หากคุณอยากกลับไปทำงาน
หรือออกกำลังกายได้เต็มที่อีกครั้ง

หยุดเสียเวลา ไปกับการลองผิดลองถูกในการรักษา
หยุดเสียเงิน ไปกับการรักษาที่ไม่เห็นผล

รายละเอียดในการรักษา

ข้อมูลที่เกี่่ยวข้องกับการรักษา

ปกติแล้ว 90% ของผู้ป่วย จะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก (ในเคสที่เป็นมาไม่นาน จะดีขึ้นเลยทันที แต่ในเคสที่เป็นเรื้อรังมา จะดีขึ้นเพียงระยะหนึ่งเท่านั้น แล้วจะยังเหลืออาการปวดอยู่ เนื่องจากยังแก้ได้ไม่หมด)

แต่จะมีผู้ป่วย 10% ที่ไม่เห็นผลจากการรักษาครั้งแรก เนื่องจากว่า ผู้ป่วยมีอาการสะสมมานาน โดยอาจจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่ส่วนใหญ่จะไปเห็นผลในครั้งที่ 2-3 แทนค่ะ

ในผู้ป่วยที่มีอาการมาไม่เกิน 3 เดือน จะรักษาหายเร็วมาก 1-2 ครั้ง แล้วจบเลย

แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการมานานกว่านั้น ผู้ป่วยอาจจะต้องรักษา แบบต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้ป่วยจะใช้ระยะเวลารักษา 3-8 ครั้ง (บางเคสหายเร็ว บางเคสหายช้ากว่านี้) สาเหตุที่ต้องรักษาหลายครั้ง เพราะเราต้องการให้อาการดีขึ้นอย่างถาวร และป้องกันการกลับมามีปัญหาทรุดหนักเมื่ออายุมากขึ้น

* ผู้ป่วยบางท่านมีอาการสะสมมานานตั้งแต่สมัยหนุ่มสาวแต่ “ไม่รู้ตัว” และเพิ่งมา “ออกอาการ” ได้ไม่นาน ถ้าเป็นลักษณะนี้ จะต้องรักษา “แบบต่อเนื่อง” นะคะ *

แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังมานานกว่า 10 ปี เฉลี่ยแล้วจะใช้เวลารักษาประมาณ 10-15 ครั้ง (ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่า อาการที่เป็นเรื้อรังนานเช่นนี้ จะไม่สามารถรักษาหายได้รวดเร็วอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรักษาแบบไหนก็ตาม ถ้าผู้ป่วยใจร้อนและอยากหายเร็วๆ เราไม่แนะนำให้มาค่ะ เพราะทางคลินิกอาจจะไม่สามารถรักษาให้หายเร็วตามความคาดหวังได้)

ที่นี่รักษาเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 30-90 นาที ขึ้นอยู่กับความหนัก-เบาของอาการค่ะ

✅ ไม่อยากใช้ยาไปตลอด ไม่อยากผ่าตัด

✅ ผู้ที่รักษามาแล้วหลายที่ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น

✅ ผู้ที่ไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูกกับการรักษาที่ไม่ได้ผล

✅ ผู้ที่อยากจบปัญหาตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อยากให้อาการที่เป็นอยู่ลุกลามทรุดหนักในอนาคต

✅ ผู้ที่ต้องการมีร่างกายที่ดี เมื่ออายุมากขึ้น ไม่อยากเป็นภาระให้กับคนรอบข้าง

✅ ผู้ที่อยากมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่าเดิม ไม่บาดเจ็บ/ไม่ปวดง่าย

✅ ผู้ที่ออกกำลังกายหนักเป็นประจำ และต้องการเคลียร์อาการบาดเจ็บต่างๆ ที่สะสมอยู่ในร่างกายออก เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บหนักในอนาคต

ที่คลินิกเรารักษาด้วยการนวดค่ะ แต่จะไม่เหมือนกับการนวดทั่วๆ ไป เพราะการนวดทั่วไปนั้น เป็นการนวดแค่คลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นๆ ไม่ได้ลงลึกไปแก้ที่สาเหตุ ไม่ใช่การรักษา ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้ผู้ป่วยดีขึ้นแบบถาวรได้

การนวดรักษาของทางคลินิกจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ:

1. การนวดแผนไทยประยุกต์

ในขั้นตอนนี้ จะนวดโดยการใช้ข้อศอก นวดลงเฉพาะจุดที่มีอาการ เพื่อทำให้กล้ามเนื้อชั้นบนและกล้ามเนื้อชั้นลึก (Deep tissue) คลายตัว จากการหดเกร็ง และการแข็งตึง

ปกติการนวดในขั้นตอนนี้ จะเป็นเพียงการเตรียมกล้ามเนื้อสำหรับการรักษาในขั้นถัดไป แต่ด้วยเทคนิคเฉพาะของทางคลินิก เราสามารถนำการนวดลักษณะนี้มาช่วยแก้อาการเมื่อยเรื้อรัง  ตึงเรื้อรัง รวมถึงช่วยแก้อาการกล้ามเนื้อสันหลังอักเสบ และ อาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ได้อีกด้วย

2. การนวดแกะเส้น

ในขั้นตอนนี้ จะเป็นการใช้นิ้วมือ “ขยับ” มัดกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นที่ “จม” ให้เคลื่อนกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม และขยับมัดกล้ามเนื้อที่เกร็งตัวชิดกันจนบีบรัดเส้นประสาท ที่อยู่ด้านใน ให้คลายตัวออกจากกัน

การนวดในขั้นตอนนี้ จะช่วยเรื่องอาการจมได้ เช่น สะบักจม รวมถึง อาการชา อาการตะคริว เช่น มือชา แขนชา ตะคริวที่น่อง เป็นต้น และยังช่วยในเรื่องของอาการ “ตึงรั้ง” ต่างๆ เช่น ตึงจากคอขึ้นศรีษะ ตึงจากบ่าลงแขน เป็นต้น

3. การนวดสลายพังผืด

ในขั้นตอนนี้ เราจะใช้ไม้เล็กๆ นวด เพื่อสลาย:

 พังผืด (adhesion) ที่เกาะอยู่ในบริเวณ ข้อต่อ หรือ หมอนรองกระดูก ที่ทำให้ข้อต่อ หมอนรองกระดูกเกิดอาการแข็ง ยึด ไม่ยืดหยุ่น มีเสียงก๊อกแก็ก เวลาขยับข้อต่อนั้นๆ

✅ จุดปวดเกร็ง (Trigger points) ที่ฝังตัวอยู่ในมัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น และที่บีบรัดจนเส้นประสาทไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ซึ่งจุดปวดเกร็งนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด อาการ ปวด ชา แสบร้อน ไฟช็อต ยิบๆ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ

เมื่อพังผืดและจุดปวดเกร็งสลายตัวออก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ หมอนรองกระดูก จะกลับมา มีความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อจะคลายตัวอย่างแท้จริง เส้นประสาทจะกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้ง เลือดลมจะหมุนเวียนได้คล่อง อาการปวด ชา แสบร้อน หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ก็จะ “หมดไป” และ ไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีกในอนาคต

ในภาวะของผู้ที่เป็น หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท กระดูกทรุด หรือกระดูกเสื่อมนั้น เมื่อพังผืดและจุดปวดเกร็งถูกสลายออกไป การยึดเกร็ง การตึงรั้งระหว่างหมอนรองกระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงก็จะหายไปด้วย หมอนรองกระดูกที่เคยเคลื่อนออก หรือข้อกระดูกที่เคยทรุด จะค่อยๆ ฟื้นตัวและ ขยับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม ได้เอง ตามกลไกการซ่อมแซมของร่างกาย

ขั้นตอนการนวดสลายพังผืดนี้ เป็น หัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่ ดีขึ้นได้อย่างถาวร

การนวดสลายพังผืดที่ได้ผลนั้น จะต้องทำโดยผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเท่านั้น ผู้ที่ไม่มีความรู้อย่างแท้จริง จะทำได้เพียง กดให้พังผืด “นิ่มลงเท่านั้น” ไม่ได้สลายออกไป ซึ่งเป็นการบรรเทาอาการเพียง “ชั่วคราว” เพราะตราบใดที่เรายังใช้ร่างกายทำอิริยาบถต่างๆ ในทุกๆ วัน พังผืดที่นิ่มตัวลงไปก็สามารถกลับมา “แข็งตัวเป็นก้อน” ใหม่ได้เสมอ ผู้ป่วยก็จะกลับมา “มีอาการซ้ำๆ” อีกในอนาคต

  • ขณะทำการรักษา ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บค่อนข้างมากนะคะ ส่วนใหญ่จะเจ็บในขั้นตอนของการสลายพังผืดและสลาย trigger points ค่ะ ถ้าผู้ป่วยเคยผ่านการนวดแบบเจ็บๆ มาบ้าง จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นคนที่ทนเจ็บไม่ได้เลย เราไม่แนะนำให้มาค่ะ
  • ในผู้ป่วยบางเคส หลังทำการรักษา อาจจะมีรอยฟกช้ำ ถ้าบริเวณนั้นมีชั้นไขมันอยู่เยอะ เช่น ต้นแขน ต้นขา ก้น ใต้ข้อพับเข่า เป็นต้น รอยช้ำเหล่านี้ไม่มีอันตรายใดๆ และสามารถจางไปได้เองภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ
  • ในผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังสะสมมานาน ผู้ป่วยต้องใจเย็นและให้เวลากับทางคลินิกในการรักษา เพราะเราต้องรักษาไปทีละขั้นตอน เปรียบเสมือนการขุดขยะที่ฝังอยู่ใต้พรมให้ออกมา ยิ่งเป็นมานาน ยิ่งมีขยะซ่อนอยู่เยอะ ก็ยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าจะขุดออกมาจนหมด แต่เมื่อแก้ออกจนหมดแล้ว ผู้ป่วยจะได้ร่างกายใหม่ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ อยากทำอะไรก็ทำได้ ไม่เป็นภาระให้กับใครเมื่ออายุมากขึ้น
  • ผู้ป่วยที่มารักษาแล้วไม่เห็นผล ส่วนใหญ่คือผู้ป่วยที่มีอาการสะสมมานานหลายปี แต่ใจร้อนอยากหายไวๆ โดยมากเมื่อมารักษา 1-2 ครั้งแรก แล้วถ้าอาการไม่ดีขึ้นตามที่คาดหวัง ก็จะหยุดการรักษาไปกลางครัน

❌ ที่คลินิกไม่รับนวดรักษาผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวเกิน 90 kg

❌ ที่คลินิกไม่รับนวดรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน

❌ ที่คลินิกไม่รับนวดรักษาในผู้ป่วยที่กำลังตั้งครรภ์

❌ ที่คลินิกไม่รับนวดรักษาในผู้ป่วยที่ยังมีรอยฟกช้ำอยู่

❌ ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ คลินิกจะไม่รับนวดบริเวณ คอบ่าไหล่ แต่อาการอื่นสามารถนวดได้

❌ ผู้ป่วยที่มีโรคความดันสูง จะต้องทานยาคุมความดันมาก่อนเข้ารับการรักษา

ค่ารักษาจะอยู่ที่ 2100/ครั้ง (รักษาเดือนละ 1 ครั้ง)

ทางคลินิกสามารถออก “ใบรับรองแพทย์” และ “ใบเสร็จ” สำหรับผู้ป่วยบางท่านที่อาจนำไปใช้เบิกได้

ถ้าเคยผ่าตัดมาแล้ว จะรักษายากกว่าเคสที่ยังไม่ผ่าตัดนะคะ ดังนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 500.- บาทค่ะ

สามารถจองคิวทางโทรศัพท์ ไลน์ หรือ Facebook page ได้ค่ะ
แต่เนื่องจากคลินิกของเรารับรักษาผู้ป่วยในแต่ละวันจำนวนค่อนข้าง “จำกัด” เพราะต้องการใช้เวลารักษาผู้ป่วยแต่ละท่านอย่าง “เต็มที่” และที่คลินิกคิวจะเต็มเกือบทุกวัน ดังนั้นหากผู้ป่วยต้องการจองคิวรักษา หลังจากนัดวัน-เวลาแล้ว จะต้องขออนุญาตให้ทำการ “โอนมัดจำ” เพื่อล็อคคิวที่แน่นอนไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการตัดโอกาสแก่ผู้ป่วยท่านอื่นๆ ค่ะ

อย่าทน กับอาการที่เป็นอยู่ เพราะยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งแก้ยาก สุขภาพจิตยิ่งเสียหนัก และยิ่งเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าในอนาคต

© Copyright 2020 - นวดแก้อาการ รักษา ปวดหลัง กระดูกทับเส้น ปวดคอ ออฟฟิศซินโดรม ปวดเข่า