อาการปวดหลัง สะโพก ขา ที่พบได้บ่อย มีดังนี้
1.การปวดหลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบ
คืออาการปวดหลังที่เกิดขึ้นในบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของแผ่นหลัง (โดยมากจะพบบริเวณหลังช่วงล่าง หรือบริเวณเอว แต่ก็สามารถพบได้ในบริเวณหลังส่วนอื่นๆ ด้วย) โดยสาเหตุจะเกิดจากกล้ามเนื้อสันหลังบริเวณนั้นๆ เกิดการ อักเสบ ตึงเครียด และ หดเกร็ง
อาการปวดหลังในลักษณะนี้ มักจะเริ่มต้นจากการปวดเฉพาะในบางอิริยาบถก่อน เช่น ปวดตอนก้ม ตอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตอนลุกจากเตียง ตอนนั่งนานๆ หรือปวดหลังจากการออกกำลังกาย เป็นต้น แต่หากปล่อยไว้นานเข้าและไม่ได้รับการรักษา อาการปวดนี้จะสามารถพัฒนากลายไปเป็นปวดตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งสามารถพัฒนาไปเป็นภาวะ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ได้ในอนาคต
2.การปวดหลังที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกปลิ้น หมอนรองกระดูกทรุด หรือ หมอนรองกระดูกแตก
อาการปวดหลังนี้ จะเป็นอาการปวดหลังที่รุนแรงกว่าอาการปวดที่เกิดจากกล้ามเนื้อ เนื่องจากส่วนหนึ่งของหมอนรองกระดูกจะมีการเคลื่อนไปกดทับโดนเส้นประสาท ที่ควบคุมการทำงานของ สะโพก ต้นขา น่อง และ ปลายเท้าด้วย ดังนั้นอาการที่เกิดขึ้น จะไม่จำกัดอยู่ที่บริเวณหลังอย่างเดียว ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ผู้ป่วยจะมีอาการ ปวดร้าวลง สลักเพชร สะโพก หน้าแข้ง จนถึง ข้อเท้า นอกจากนี้ในหลายๆ เคส จะมีอาการ ชาขา ชาปลายเท้า รวมถึง ขาอ่อนแรง ร่วมด้วย เนื่องจากเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของขา โดนกดทับ และไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
3.อาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis)
กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท อาการแสดงจะคล้ายกับอาการกระดูกทับเส้นประสาท แต่มีสาเหตุที่แตกต่างกัน คืออาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เป็นอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อภายในก้น (ที่มีชื่อว่า ฟิริฟอร์มิส) ที่ทำหน้าที่ช่วยให้ต้นขาเคลื่อนไหวได้ปกติ หดเกร็งจนไปบีบรัดเส้นประสาท จึงทำให้เกิดอาการปวดชาที่ก้น สะโพก ร้าวลงขา ในบางเคส อาจมีอาการเสียวแปล๊บที่ ก้น หรือ สะโพก เวลาเปลี่ยนอิริยาบถ
4.อาการสะโพกเสื่อม
โดยส่วนมาก อาการสะโพกเสื่อม จะมาจากการอักเสบ หรือบาดเจ็บเรื้อรัง ของกล้ามเนื้อหรือหมอนรองกระดูกสันหลัง และไม่ได้รับการรักษา ส่งผลให้อาการปวดนั้นลุกลามมาบริเวณสะโพก ทำให้เกิดการอักเสบของเอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก จนทำให้เกิดการเสื่อมของสะโพกในที่สุด อาการสะโพกเสื่อมหากเริ่มรุนแรงขึ้น จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เกิดการติดขัดในการเคลื่อนไหว เดินลำบาก ขึ้นลงบันไดไม่ได้ กางหรือหุบขาไม่ได้ เพราะจะมีอาการปวดสะโพก ปวดขาหนีบ ในเคสที่รุนแรงมากๆ ขาจะอ่อนแรงลงเนื่องจากกล้ามเนื้อที่ควบคุมข้อสะโพกอ่อนแอเพราะใช้งานไม่ได้
5.อาการปวดสะโพกจากอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก
อุบัติเหตุข้อเท้าพลิกแรงๆ นั้น สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณสะโพกได้ เนื่องจากเมื่อเส้นประสาทบริเวณข้อเท้าเกิดการอักเสบมากๆ กล้ามเนื้อบริเวณที่เกี่ยวเนื่องจะเริ่มเกิดความตึงเครียด และหดเกร็ง หากมิได้ทำการรักษาหรือปล่อยไว้ กล้ามเนื้อที่อักเสบ จะเริ่มเกร็งตัวมากขึ้น และจะดึงรั้งไปถึงบริเวณหัวเข่า ผู้ป่วยจะรู้สึกเริ่มปวดเข่า และหากปล่อยไว้ ในที่สุดจะดึงรั้งลามถึงบริเวณสะโพก และทำให้เกิดอาการปวดสะโพกในที่สุด